งาน Meeting ที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาส ครบรอบเดบิ้วท์ ( เปิดตัว ) ของวง D-Code จากค่าย Galax Record จัดขึ้นที่ The white house Studio พระราม9
ลงทะเบียนเข้างาน
สำหรับผู้ที่จองบัตรล่วงหน้าในงาน Idol Exchange ก็จะได้รับของที่ระลึกเป็น บัตรเข้าร่วมงาน สเปรย์แอกอฮอล์ล้างมือ สายคาดแก้วน้ำ สติกเกอร์ D-Code ได้รูปโพราลอยด์ 1 ใบ และ Fan Sign Card

บรรยากาศภายในงาน
บรยากาศภายในงาน ถูกจัดบรรยากาศออกมาให้เหมือนกับ Gallery ประดับตกแต่งด้วยการแขวนรูปภาพ บรรยากาศงานต่างๆ ที่ผ่านมาในรอบ 1 ปี มีมุม Post-It .ให้แฟนคลับได้เขียน และส่งมอบกำลังให้กับเมมเบอร์ มีมุมของว่าง และเครื่องดื่ม รวมถึงการจัดสถานที่แบบ เว้นระยะห่าง ( เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 )

ย้อนเวลาสู่วันแรกที่เริ่มต้น
ช่วงแรกของงาน เริ่มต้นด้วยการพาแฟนคลับ หรือที่เรียกกันว่าชาว “Rocket” รับชมคลิปในวันออดิชั่นของเมมเบอร์ในปัจจุบัน หลังจากชมคลิปเสร็จ ก็เป็นการจำลองบรรยากาศของการออดิชั่น โดยให้เมมเบอร์ได้ทำการแสดงต่อหน้าแฟนคลับอีกครั้ง
การแสดงพิเศษ
นอกจากการแสดงในวันออดิชั่นแล้วน้องๆ ก็ยังเตรียมการแสดงพิเศษ มาให้แฟนแฟนได้รับชมด้วย
กิจกรรมร่วมกันแฟนคลับ
หลังจากชมการแสดงมาจนจุใจแล้ว ก็ได้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันกับแฟนคลับ โดยอาศัยเลข คู่-คี่ ที่วางไว้ใต้ที่นั่งด้วยการแบ่งเป็น 2 เกม
- โดยเกมแรกเป็นเกมทายคำ โดยให้แฟนคลับใบ้และให้ เมมเบอร์ D-Code เป็นคนทาย
- ส่วนเกมที่สอง เป็นเกมทายเพลง โดยให้เมมเบอร์ ใบเป็นคำๆ แล้วให้แฟนคลับทาย

แสดงความยินดี
หลังจากที่ครบถ้วนกระบวนความแล้ว ก็ได้เวลามาดูวีดีโอกันต่อ ซึ่งเป็นข้อความแสดงความยินดี จากทีมงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอดีตสมาชิกด้วย
การแสดงปิดท้าย
เป็นการแสดงเพลงซิงเกิ้ลแรก “สู่โลกใบใหม่” และ เพลง “เส้นทาง” ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายดี และค่อนข้างจะมีความหมายกับค่าย Galax Record
แฟนไซน์
เป็นช่วงเวลาที่แฟนคลับจะได้คุยกับ เมมเบอร์ ( ศิลปิน ) อย่างใกล้ชิด พร้อมได้รับโปสการ์ด พร้อมข้อความ และลายเซ็นต์กลับไปเป็นที่ระลึกด้วย ซึ่งได้แฟนไซน์จาก เมมเบอร์ทั้ง 5 คน คนละ 1 ใบ และยังสามารถนำสิ่งของอื่นๆไปให้เมมเบอร์เซ็นได้อีกด้วย
ถ่ายรูปโพลาลอยด์
กิจกรรมสุดท้ายก็คือกิจกรรมถ่ายรูปด้วยกล้อง โพลาลอยด์หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “เชกิ” เป็นการเรียกทับศัพท์ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่ซื้อบัตรล่วงหน้าก็จะได้รับ 1 ใบ และสามารถซื้อเพิ่มได้ในราคาพิเศษใบละ 100 บาทเท่านั้น
รางวัลพิเศษ
ท้ายสุดเป็นการแจกรางวัลใหญ่ที่สุดในงาน นั่นคือแฟรมรูป โดยการให้ตอบคำถาม และผู้โชคดีได้รัปรูป พร้อมลายเซ็นต์กลับบ้านไป
ความรู้สึกหลังจากจบงาน
บรรยากาศของงาน เป็นการย้อนไทม์ไลน์กลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน นำเสนอเรื่องราว การเติมโตของสมาชิก ( ในปัจจุบัน ) 70% ของงาน คือเป็นการแสดงต่างๆ จากเมมเบอร์ สำหรับคนที่ชอบดูการแสดงอยู่แล้วอาจจะถูกใจกับจุดนี้ ส่วนกิจกรรมที่ได้ร่วมเล่นกับเมมเบอร์ราวๆ 30% ของงาน ก็คือ การได้พูดคุยกับเมมเบอร์ในช่วงกิจกรรมแฟนไซน์ และการถ่ายรูปกับเมมเบอร์ ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม ความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า ถ้ามีกิจกรรมที่แฟนคลับและเมมเบอร์ได้ร่วมกันทำมากกว่านี้ จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับแฟนคลับได้มากขึ้น