วันนี้เราจะนำทุกท่านมารู้จักกับ “ไอดอลกรุ๊ป” ในมุมของแบบธุรกิจกันบ้าง แน่นอนว่า การจะลงมือทำไอดอลกรุ๊ปซักวงหนึ่งนั้นไม่ได้ทำง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นวงที่อยู่ในไทย ญี่ปุ่น เกาหลี หรือ ไอดอลไทยในเกาหลี วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูว่าการที่เราจะทำไอดอลกรุ๊ปซักวงหนึ่งนั้น มีปัจจัยอะไรบ้างที่จะต้องคำนึงถึงบ้าง
Table of Contents
จิกะไอดอล
หรือ ที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ไอดอลใต้ดิน มีเหล่าเด็กสาวที่รวมตัวจับกลุ่มกันเป็นวงไอดอล พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เป็นไอดอลกรุ๊ปที่บริหารจัดการกันเอง ไม่ได้มีค่าย หรือ สังกัดสนับสนุน ในกระบวนการทำงานทั้งหมด ซึ่งระดับการการบริการจะมีแค่ คนที่เป็นทีมบริหาร และ ตัวสมาชิก ยดตัวอย่างเช่นวง The Glass Girls, Sora Sora หรือ Happy Tail เป็นต้น
การบริหารวงมองหลักๆก็อาจจะแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ การบริหารภายนอก เช่น ภาพลักษณ์ของวงไม่ว่าจะเป็น คอนเซ็ปต์ เมมเบอร์ การนำเสนอข้อมูลต่างๆ ของเมมเบอร์ การทำคอนเท้นท์ต่างๆ การสื่อสารกับแฟนคลับ การนำเสนอข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การลงทุนเริ่มต้น
ปัจจัยหลักที่มีความสำคัญและจำเป็นที่จะทำให้วงสามารถดำเนินกิจกรรมของวงได้ส่วนหนึ่งก็คือ “เงินทุน” วงไอดอลกรุ๊ปแบบ “จิกะไอดอล” เริ่มต้นจากเงินทุนที่ไม่มากนัก อาจจะต้องมีสำรองจ่ายเพียงพอสำหรับ ค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนการรับสมัครสมาชิก การคัดเลือกสมาชิก ค่าทำเพลง ค่าครูสอนร้อง สอนเต้น ค่าชุด ค่าสถานที่ซ้อม ค่าทำสินค้า ฯลฯ ซึ่งไอดอลกรุ๊ปก็ต้องบริการเงินทุนให้เหมาะสม และเพียงพอในช่วงแรก
ช่องทางรายได้
หลังจากที่ผ่านการดำเนินการก่อตั้งวงในช่วงแรกแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินการสำหรับหารายได้สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ของวง ซึ่งแนวทางในการสร้างรายได้
รายได้จากการขายสินค้า
อาจจะเป็นรายได้หลักของวงในช่วงแรก สินค้าที่นิยมทำมาจำหน่ายในช่วงแรก ก็จะเป็น “โฟโต้เซ็ต” ซึ่งเป็นสินค้าประเภทสุ่ม มีโอกาสที่แฟนคลับจะได้สินค้าหาแบบหายาก เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าที่จำหน่ายได้มากขึ้น หรือ อาจจะเป็นถ่ายถ่ายรูปโพลาลอยด์หรือที่เรียกกันว่า “เชกิ” คือการถ่ายรูปโพลาลอยด์คู่กับเมมเบอร์ และได้สิทธิ์พูดคุยในระยะเวลาที่กำหนด ส่วนเมมเบอร์ก็จะเขียนข้อความพร้อมลายเซ็ต ( ขึ้นอยู่กับแต่ละวง ) ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่ 250-500 ต่อครั้ง ในส่วนของการถ่ายรูปโพลาลอยด์ เมมเบอร์ก็จะส่วนแบ่งหรือค่าคอมมิชชั่นในส่วนนี้ด้วย ส่วนหนึ่งก็อาจจะหักเป็นต้นทุนค่าดำเนินการ อีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเก็บไว้เป็นกองกลาง ในส่วนของกำไรก็จะถูกนำไปใช้จ่าย ในเรื่องของ ชุด การทำเพลง ต่อไป
รายได้จากการไลฟ์
เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับวงได้ ซึ่งเป็นการผูกสัญญากับแอปพลิเคชั่น ในเรื่องของ ส่วนแบ่ง หรือ ค่าคอมมิชชั่นที่จะจ่ายให้กับวงและเมมเบอร์ ที่อาจจะได้ในอัตราที่เยอะกว่าการเติมปรกติ ซึ่งรายได้จากช่องทางการไลฟ์ผ่านแอปพลิเคชั่น คือ การที่แฟนคลับส่งไอเท็ม หรือ ของขวัญ ให้กับ เมมเบอร์ที่จัดไลฟ์ ซึ่งแฟนคลับสามารถเติม เหรียญ หรือ ไอเท็ม ได้ในอัตราที่ถูกกว่าปรกติเมื่อเติมกับต้นสังกัดของไอดอลกรุ๊ปนั้นๆ
รายได้จากเพลง
การลงทุนในการทำเพลง ซึ่งไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายในการทำเพลงเท่านั้น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็น ค่าชุด ค่าครูสอนร้อง สอนเต้น ค่าห้องซ้อม ฯลฯ แต่ในปัจจุบันไม่จำในการจำหน่ายเพลงนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่แล้ว สามารถจัดจำหน่ายเพลงผ่าน ช่องทาง Music Streaming ไม่ว่าจะเป็น Joox , Apple Music , Sportify เป็นอีกช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับวงได้
รายได้จากงานจ้าง
หากวงไอดอลกรุ๊ปที่จัดทำขึ้น เริ่มมีคนรู้จักขึ้นมาบ้างแล้ว โอกาสในการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งช่องทางนั้นคือ การจ้างไปแสดงตามงานต่างๆ ซึ่งผู้จ้างก็จะได้แฟนคลับที่ติดตามไอดอลกรุ๊ปนั้นๆ ตามไปให้กำลังใจไปด้วยในตัว ซึ่งการที่จะได้งานจ้างมานั้นประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น กระแสหรือความนิยมของวงนั้นๆ คอนเนกชั่นในวงการ และ กลุ่มเป้าหมายของผู้จ้างว่าตรงกับไอดอลกรุ๊ปนั้นๆ หรือไม่
การโปรโมท การตลาด การได้พื้นที่สื่อ
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำวงไอดอลกรุ๊ป นั่นคือการโปรโมท ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทจากออฟฟิตเชียวเอง หรือ การโปรโมทตัวเมมเบอร์เอง หรือ การได้รับการโปรโมทผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ ยกตัวอย่างเช่น การที่แฟนคลับถ่ายคลิปการแสดงไปลงในสื่อโซเชียวมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น ยูทูปหรือเฟสบุ๊ค ยิ่งสื่อที่มีผู้ติดตามมาก ก็จะช่วยให้คนเห็นได้มาก โอกาสที่จะได้แฟนคลับหน้าใหม่ก็มากขึ้นไปตามด้วย
แฟนคลับ เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ต่อศิลปิน และ ไอดอลกรุ๊ป เรียกได้ว่านอกจากเรื่องของกำลังใจแล้ว เรื่องของปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนวง ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำบอกต่อ แบบปากต่อปาก สิ่งที่ยากคือ การสร้างฐานแฟนคลับให้เหนียวแน่นอพร้อมที่จะสนับสนุนทั้งเมมเบอร์และวง หลังจากที่มีฐานแฟนคลับแล้ว นอกจากจะต้องรักษาฐานแฟนคลับไว้ให้ได้แล้ว การสร้างฐานแฟนคลับใหม่ก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กัน เพราะแฟนคลับมีวันเบื่อได้ ไม่ว่าจะเบื่อศิลปิน เบื่อวง หรือ เบื่อทีมบริการเข้าซักวัน
ในที่สุดแล้ว ไอดอลกรุ๊ปอิสระก็มีโอกาสที่จะได้เข้าร่วมกับ ค่าย หรือ สังกัด ถ้ามีผลงานที่เข้าตา นายทุน ก็มีโอกาสที่จะมีนายทุนเข้ามาสนับสนุนปัจจัยทางด้านการเงิน การออกงานต่างๆ แต่นั่นก็รวมถึงการที่เปิดโอกาสให้นายทุนเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่งอาจจะกระทบกับ นโยบาย หรือ แนวทางการดำเนินงาน กิจกรรมต่างๆ ของวงได้
เมเจอร์เดบิ้วท์
ไอดอลกรุ๊ปที่มีค่ายเพลง หรือ สังกัดสนับสนุน ซึ่ง หลักๆก็จะมีทุนในการที่จะผลิต ไอดอลกรุ๊ปอยู่บ้างแล้ว หรือ มีนักแต่งเพลง ครูสอนเต้นเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งค่ายเพลงนอกจากผลิตศิลปินแล้ว ก็หันมาผลิตไอดอลกรุ๊ปด้วย ซึ่งสิ่งที่ขาดก็คือ “ไอดอลกรุ๊ป” ของค่ายนั้นเอง
การที่จะได้เข้าสังกัด
เนื่องจากต้นสังกัดส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความ พร้อมที่จะสนับสนุนผู้ที่มีความสนใจจะเป็นไอดอลกรุ๊ป ในหลายๆด้านเพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อให้การลงทุนในการทำไอดอลกรุ๊ปนั้นคุ้มค่าที่สุด กระบวนการที่จะทำการคัดเลือกก็จะเข้มข้นมากขึ้น รายละเอียด หรือ คณะกรรมการก็จะมีความเฉพาะเจาะจงขึ้น ยิ่งเป็นค่ายเพลงที่มีชื่อสียง ก็จะได้รับความสนใจมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งจำนวนสมาชิกที่ได้รับคัดเลือกอาจจะไม่ได้เยอะมากเมื่อเทียบกับจำนวนของผู้ที่สมัคร
เด็กฝึกหัด
บางสังกัดเมื่อผ่านการคัดเลือกแล้วก็จะอยู่ในสถานะ “เด็กฝึกหัด” หรือที่เรียกกันว่า “เทรนนี” เพราะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามานั้น อาจจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน อาจจะถนัดร้อง ถนัดเต้น ถนัดทั้งสองอย่าง หรือ ไม่ถนัดเลย ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องมาปรับจูนกับเมมเบอร์ที่เหลือ ของไอดอลกรุ๊ปนั้นๆ ซึ่งในส่วนของการฝึกซ้อมนั้น ทางค่ายหรือ ต้นสังกัด ที่พร้อมลงลงทุนในส่วนนี้อยู่แล้ว ก็จะสนับสนุน ผู้ที่ได้รับคัดเลือก ทั้งการเรียงร้อง การเรียนเต้น สถานที่ฝึกซ้อม รวมถึงสวัสดิการ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างการฝึกซ้อมอยู่ด้วย
นอกจากนั้นแล้ว เรื่องของการทำเพลง เนื่องจากค่ายมีนักแต่งเพลงอยู่แล้ว อาจจะใช้เวลาในการทำเพลงไม่นานนัก ก็พร้อมที่จะมีเพลงให้ศิลปินได้นำไปฝึก ร้อง ฝึกเต้นและออกแสดงต่อไป
การเปิดตัว ( Debut )
การเปิดตัวคือหนึ่งในการตลาดสำหรับ วงไอดอลไทย แล้ว ค่ายและสังกัดที่มีงบประมาณก็จะจัดงานเปิดตัวของวงได้อย่างมีความน่าสนใจ ทั้งเวลา สถานที่ รูปแบบของการเปิดตัววง นอกจากนั้นยังสร้างความสนใจด้วยการเชิญ ศิลปิน หรือ แขกรับเชิญต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชน มาร่วมงานอีกด้วย และสามารถสร้างความสนใจให้กับผู้ที่สัญจรผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี
การออกสื่อ เดินสายโปรโมท
หลังจากได้สมาชิกของวงแล้ว และเปิดตัวเรียบร้อยแล้ว ได้รับการฝึกฝนเรียบร้อยแล้วปัจจัยสำคัญก็คือ “การตลาด” ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายออกสื่อ การโปรโมทและผลักดัน ทั้งเพลง และศิลปิน การที่จะได้ออกงานแสดงต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละค่าย แต่ละสังกัด
พื้นที่ในการแสดง
หากค่ายหรือสังกัดของไอดอดกรุ๊ปนั้นมีงบประมาณที่จะสามารถสนับสนุนเมมเบอร์ได้ ก็อาจจะมีสถานที่ สำหรับทำการแสดงโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น BNK48 ที่มี BNK48 Campus ที่เดอะมอลล์บางกะปิ รวมไว้ทั้ง คาเฟ่ ร้านขายสินค้า สตูดิโอ และ สถานที่ฝึกซ้อม และ มีไลฟ์สตูดิโอ อยู่ที่ MBK เป็นต้น
นอกจากนั้นแล้ว อาจจะยังต้องดูเรื่องของ สัญญา และ รายได้ที่ได้จากสังกัดเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นต์สัญญา ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาแบบ ปีต่อปี หรือ 3 ปีหรือ มากกว่าขึ้น จะต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนเซ็นสัญญาว่า ไม่ว่าจะเป็น กฎระเบียบ ขั้นตอนในการบอกยกเลิกสัญญา ค่าปรับ ด้วย
ความฝัน บนเส้นทางธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นไอดอลกรุ๊ปในรูปแบบในก็ตาม อย่าลืมว่าคุณกำลังทำธุรกิจอยู่กับ คนที่มีความตั้งใจ โดยใช้ความพยายาม และ ความฝัน เอาเข้าจริงความฝันอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้วงไอดอลกรุ๊ปอยู่ต่อไปได้ หรือการทำธุรกิจเพื่อหาแต่กำไรเพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่ตรงกับความต้องการของสมาชิก เพราะฉะนั้น การที่จะดำเนินธุรกิจนี้ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น สัดส่วนของความฝัน และ การบริหารแบบธุรกิจ ต้องสอดคล้อง และเชื่อมโยงไปในแนวทาง และทิศทางเดียวกันอย่างสมดุล
อ้างอิง
https://mgronline.com/japan/detail/9610000128017
https://www.blockdit.com/posts/5ca76f63c6268b5860048947
https://www.beartai.com/lifestyle/502775
https://www.posttoday.com/world/567065